สำนวนไทยเกิดจากการละเล่น

สำนวนไทยเกิดจากการละเล่น
1. เข้าตาจน
                สำนวนนี้มาจากการละเล่นทีมีตัวหมากเดินตามตาราง เช่น หมากรุก หมากตัวใดต้องตกอยู่ในตาซึ่งไม่มีทางจะเดินต่อไปอีก ก็เรียกกันว่า จน คือแพ้ ใครที่ต้องตกอยู่ในที่อับจนไม่มีทางเบี่ยงบ่ายเอาตัวรอดได้ ก็เรียกว่า เข้าตาจน
ตัวอย่าง
สิ้นคิดฤทราเข้าตาจน จนผลาญนฤมลให้มรณา
อิเหนา พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2
2. คลุกคลีตีโมง
                อยู่ร่วมกัน คลุกคลีอยู่ด้วยกัน คำว่า ตีโมง หมายถึงตีฆ้อง การเล่นของไทยในสมัยโบราณมักจะมีฆ้องกับกลองเป็นอุปกรณ์ เช่น โมงครุม ระเบ็ง ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยาในบุณโณวาท คำฉันท์ว่า
ตัวอย่าง
โมงครุ่มคณาชายกลเพศพึงแสยง ทับทรวงสอิ้งแผง ก็ตระกูตะโกดำ เทริดใส่บ่ใคร่ยล ก็ละเล่นละลานทำ กุมแส้ทวารำ ศรับร้องดำเนินวง
3. ถูกขา
                หมายความว่า เข้าคู่ หรือเข้าพวก หรือเข้าชุดกันได้สนิทสนมกลมเกลียวกันดีไม่ขัดเขิน เช่นเล่นฟุตบอลถูกขากัน เต้นรำถูกขากัน มูลของสำนวนนี้มาจากการเล่นที่ประกอบด้วยผู้เล่นหลาย ๆ คน เช่นเล่นไพ่ ถ้าเคยเล่นด้วยกันมาก่อนเรียกว่าถูกขากัน
4. นักเลงอดเพลงไม่ได้
                มีนิสัยชอบแล้วอดไม่ได้ มูลของสำนวนน่าจะมาจากการเล่นเพลง นักเลง หมายถึงนักเล่น เมื่อเป็นนักเล่นแล้วเห็นคนอื่นเล่นเพลงกันก็อดที่จะเข้าร่วมวงไม่ได้ ต่อมาใช้กว้างออกไป หมายถึงอะไรก็ได้เมื่อชอบแล้วก็อดที่จะประพฤติไม่ได้
5. โบแดง
                การแสดงออกที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถให้เป็นที่ยกย่อง มูลของสำนวนมาจากการเล่นเครื่องโต๊ะจีนในสมันรัชกาลที่ 4 คือ มีการประกวดตั้งโต๊ะจีน โต๊ะของผู้ใดมีเครื่องโต๊ะ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี ซึ่งเป็นผู้ชำนาญเครื่องโต๊ะก็เอา แพรแดง ผูกทำขวัญชิ้นนั้น เครื่องโต๊ะจีนชิ้นใดได้แพรแดงก็แสดงว่าเป็นของดี ต่อมาเอาแพรมาทำเป็นโบแดง โบแดงกลายเป็นสำนวนใช้บอกถึงความสามารถดีเด่น ใครทำอะไรที่ดีเด่นก็จะเป็นที่ยกย่องนับถือ
6. ประสมโรง
                เข้าร่วมเป็นพวก มูลของสำนวนนี้มาจากการเล่นละคร ในสมัยก่อนละครที่รวมเป็นคณะเรียกว่า โรง บางคนตั้งคณะละครขึ้น โดยนำเอาตัวละครจากที่ต่าง ๆ มารวมกันให้ได้เป็นโรง เรียกว่าประสมโรง
7. เป็นปี่เป็นขลุ่ย
                พูดหรือทำอะไรถูกคอกัน กลมเกลียวไปด้วยกันอย่างดี มูลของสำนวนมาจากการเล่นปี่พาทย์ในวงปี่พาทย์คนเป่าปี่เป็นคนนำเครื่องอื่นตามกลมกลืนกัน ใครพูดหรือหรือทำอะไรนำขึ้น คนอื่น ๆ ตาม จะพูดว่า เป็นปี่เป็นขลุ่ย
ตัวอย่าง
                “จะอุตสาห์ปาตะปารักษากิจ อวยอุทิศผลผลาถึงยาหยี
จะเกิดไหนในจังหวัดปักพี ให้เหมือนปี่กับขลุ่ยต้องทำนองกัน
นิราศอิเหนาของสุนทรภู่
8. เป็นหุ่นให้เชิด
                อยู่ในฐานะหรืออยู่ในอำนาจให้คนอื่นใช้เป็นเครื่องบังหน้าเขาให้ทำอย่างใดก็ทำอย่างนั้น ตนไม่มีอำนาจที่จะทำได้ นอกจากต้องสำแดงตัวรับหน้าแทนเขาไปเรื่อย ๆ มูลของสำนวนนี้มาจากการเล่นหุ่น เช่น หุ่นใหญ่ หุ่นกระบอก ซึ่งมีคนเชิดตัวหุ่นอยู่ด้านหลัง จะให้ตัวหุ่นทำอย่างไรก็แล้วแต่คนเชิดทั้งสิ้น
9. พ่อแจ้แม่อู
                หมายความว่า ต่างพันธุ์ผสมกันพันทาง พ่อแจ้ หมายความว่าพ่อเป็นไก่แจ้ แม่อู หมายความว่า แม่เป็นไก่อู ไก่อูเป็นไก่ที่สูงใหญ่กว่าไก่แจ้ ไก่ที่เอามาเล่นพนันชนกันเป็นไก่อู
10. มือใครยาวสาวได้สาวเอา
                ใครมีกำลังความสามารถหรืออิทธิพล หรืออำนาจหรืออะไรก็ตามที่จะถือเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้แล้วรีบเอาทันทีเป็นลักษณะของการแย่งชิงกัน ใช้ในเรื่องอะไรก็ได้ ใช้ได้ทั่ว ๆ ไป มูลของสำนวนมาจากบทร้องเล่นโบราณที่ว่า “ซักส้าวเอย มะนาวโตงเตง ขุนนางมาเอง มาเล่นซักส้าว มือใครยาวส้าวได้ส้าวเอา มือใครสั้นเอาเถาวัลย์ต่อเข้า
11. ไม่มีปี่มีกลอง
                ทำหรือพูดขึ้นมาโดยไม่มีเค้ามูล มูลของสำนวนนี้มาจากการรำละคร หรือกระบี่กระบองที่ใช้ปี่กับกลองทำเพลง เป็นจังหวะประกอบรำ เช่น ในเสภาขุนช้างขุนแผนตอนโจรปล้นขุนศรีวิชัย จับขุนช้างกับนางแพรทองให้รำ มีกลอนว่า “เจ้าขุนช้างกับนางแพรทอง ว่าไม่มีปี่กลองรำไม่ได้ ” แปลว่าเมื่อจะรำก็ต้องมีปี่กลอง ดังนั้นอะไรที่เกิดขึ้นเงียบ ๆ เฉย ๆ โดยไม่มีเค้ามูล จึงพูดเป็นสำนวนว่า ไม่มีปี่มีกลอง
12. ไม้ตาย
                นำหรือยกเอาข้อสำคัญมาใช้หรือกล่าวอ้าง โดยที่เชื่อว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะต้องจำนน หรือไม่ไห้รอดพ้นไปได้หรือพ่ายแพ้ มูลของสำนวนมาจากเพลงกระบี่กระบอง ตลอดจนมวย เช่นเวลาตีต่อยหมายเอาที่สำคัญที่คู่ต่อสู้จะต้องแพ้ เช่น แสกหน้าดอกไม้ทัด (ซอกหูปลายคาง กำด้น การทำถ้าถูกที่สำคัญเหล่านี้เรียกว่า ไม้ตาย เมื่อแปลเป็นสำนวนพูดว่า “โดนไม้ตาย
13. ไม้นวม
                ทำหรือพูดอะไรก็ตามต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพียงเบาะ ๆ ไม่ให้หนักรุนแรง มูลของสำนวนมาจากปี่พาทย์ คือการบรรเลง ปี่พาทย์มีสองอย่าง ถ้าจะให้เสียงดังแรงใช้ไม้ตี ชนิดทีเรียกว่า “ไม้แข็ง” ถ้าจะให้เสียงเบาฟังนุ่มนวล ให้ใช้ไม้ตีที่เรียกว่า ไม้นวม นำมาใช้เป็นสำนวนหมายความว่า คนที่ทำผิดหรือทำอะไรรุนแรงเกินเลยไป แทนที่จะลงโทษก็ว่ากล่าวสั่งสอนให้รู้สำนึกตัวเรียกว่าใช้ไม้นวม
14. ร้องจ๊อก
                ไม่ต่อสู้ ยอมแพ้ มูลของสำนวนมาจากการเล่นชนไก่ ขณะต่อสู้กัน ตัวใดแพ้ไม่ต่อสู้จะร้องออกเสียง จ๊อก และวิ่งหนีไป
15. รำพัด

                หมายความว่า เล่นไพ่ตอง วิธีเล่นไพ่ตองมีไพ่ถือในมือ 11 ใบ เวลาคลี่ไพ่ออก ไพ่มีรูปเหมือนพัดด้ามจิ้ว รำเป็นท่าต่าง ๆ เรียกว่า รำพัด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น