สำนวนไทยเกิดจากความประพฤติ
1. กินข้าวร้อนนอนสาย
กินข้าวร้อน หมายถึง
กินข้าวหรืออาหารที่ปรุงแล้วเสร็จกำลังร้อน นึกจะกินร้อน ๆ เมื่อใดก็ได้
นอนสายหมายถึง ตื่นนอนเมื่อใดก็ได้ ทั้งสองคำนี้รวมกัน
หมายถึงบุคคลชั้นขุนมูลนายที่ทำงาน อย่างอิสระแก่ตน ผิดกับคนชั้นที่ต้องอยู่ในบังคับ
ซึ่งนอนสายไม่ได้ และกินก็ไม่สะดวก ถึงเวลาจะกินไม่ได้กินทันที
กว่าจะได้กินอาหารเย็นจืดไม่มีรส ส่วนคนที่มีอิสระ นึกจะกินก็ได้กินทันที
จะตื่นเมื่อใดก็ได้
2. ข้านอกเจ้า ข้าวนอกหม้อ
การกระทำหรือประพฤติอะไรนอกออกไปจากคำสั่งหรือแบบอย่างธรรมเนียม
สำนวนนี้ใช้หมายความถึงการแอบอ้างตนว่าเกี่ยวข้องกับผู้สู้ศักดิ์
หรืออะไรอย่างใดอย่างหนึ่งให้คนหลงเชื่อ
“กาลแต่ก่อนเจ้านายน้อยตัวก็ไม่รั่วไม่ร้ำข้างไหนหนักครั้นภายหลัง
เจ้านายมากขึ้นก็เกิดการรั่วร้ำไปต่าง ๆ เป็นการข้านอกเจ้า เข้านอกหม้อ ลูกนอกพ่อ
หลานนอกปู่ เป็นขึ้น”
พระราชหัตถเลขารัชกาลที่ 4
3. ข้าวแดงแกงร้อน
ข้าวแดงเป็นข้าวที่สีด้วยมือ ไม่ขัดจนเป็นสีขาว
เพราะในสมัยโบราณยังไม่มีดรงสี คนทั่วไปจึงกินข้าวแดงกัน ถ้าจะกินข้าวขาว
คือข้าวที่ขัดจนขาว แต่เฉพาะคนชั้นสูงที่อยู่ในวัง และบ้านที่ใหญ่ ๆ โต ๆ
ข้าวแดงแกงร้อนหมายถึง บุญคุณ
คือเมื่อกินข้าวของผู้ใดก็ต้องคิดถึงบุญคุณของผู้นั้น
ตัวอย่าง
“อนึ่งนายมีคุณอันสุนทร
เพราะข้าวแดงแกงร้อนได้กินมา”
ทุคคตะสอนบุตร
4. คดในข้องอในกระดูก
คือ คนที่มีสันดานคดโกง
5. คบพาลพาลพาไปหาผิด
สำนวนนี้มีความหมายอยู่ในตัวของสำนวนอยู่แล้ว และมักจะมีคำต่อท้ายว่า
คบบัณฑิตพาไปหาผล
6. ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด
มีวิชา
มีความรู้ทุกสิ่งทุกอย่างแต่ตั้งตัวให้เป็นหลักฐานไม่ได้
หรือเมื่อคราวที่มีเรื่องเกิดขึ้นกับตัวเอง
กลับไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขให้ตัวเองรอดพ้นมาได้
7. คางคกขึ้นวอ
คนชั้นต่ำที่ไม่เคยมี ไม่เคยได้สิ่งที่ตัวเองคาดหมายไว้
แล้วกลับมามีมาได้ขึ้นมา ก็แสดงกิริยาให้เห็นว่าเห่อต่าง ๆ
8. ได้แกง เทน้ำพริก
ได้ของใหม่อะไรแปลก ๆ มาก็ทิ้งของเก่าที่มีอยู่เป็นประจำ
น้ำพริก นั้นเป็นของประจำสำหรับการทำข้าวของคนไทยมาแต่สมัยโบราณ
กับข้าวอื่นอาจจะเปลี่ยนไปต่าง ๆ อย่างนั้นอย่างนี้บ้าง
แต่น้ำพริกก็ยังคงอยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
9. ถลุง
ใช้จ่ายเงินหรือทรัพย์สมบัติหรือสิ่งของอย่างหนึ่งอย่างใดหมดสิ้นไปอย่างเหลวแหลกในเวลาอันรวดเร็ว
สำนวนนี้เอาการหลอมเหล็กให้ละลายมาเปรียบ
ตัวอย่าง
“ข้าคงไม่ได้เงินคืนอีกแล้ว อะไรถลุงเสียได้ถึงแปดสิบเหรียญในพักเดียว
แปดสิบเหรียญ”
วานิสวานิช พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2
10. เถนตรง
ซื่อหรือตรงจนเกินไป
ไม่คิดถึงอะไรควรจะเป็นอย่างไรจึงจะเหมาะสมหรือดี
ลักษณะของเถนตรงอาจเกินจากความเขลา ความคิดไม่ถึง หรือความไม่เฉลี่ยวอย่างไรก็ได้
แปลว่าไม่มีไหวพริบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น