สำนวนไทยเกิดจาก แบบแผนประเพณี

สำนวนไทยเกิดจาก แบบแผนประเพณี
1. กินขันหมาก - ได้แต่งงาน อย่างมีหน้ามีตา
ความเป็นมา สำนวนนี้มาจากประเพณีสู่ของแต่งงานของไทยที่มีมาแต่โบราณดึกดำบรรพ์ คือการสู่ขอผู้หญิงมาเป็นภรรยา ผ่ายชายต้องจัดขันใส่หมากไปหมั้นชั้นหนึ่งก่อน เรียกว่า ”ขันหมากหมั่นถึงกำหนดขันแต่งงานก็ได้ของไปอีก มีเป็นสองอย่าง คือ ขันใส่หมากพลู ข้าวสารกับเตียบ(ตะลุ่มหรือโต๊ะใส่ห่อหมก หมูต้ม ขนมจีน เหล้าอ้อย มะพร้าวอ่อน ฯลฯ เรียกว่า “ขันหมากดังกล่าว ผ่ายหญิงรับไว้สำหรับเลียงแขกและแจกจ่ายชาวบ้าน เพื่อแสดงว่า มีบุตรสาวได้แต่งงานเป็นหลักฐาน ใครที่มีบุตรได้แต่งงานจึงชื่อว่า “กินขันหมาก” ซึ่งหมายถึงได้กินของซึ่งเรียกว่า ขันหมากเอก ขันหมากเลวนั้น สุนทรภู่ว่าไว้ในสุภาษิตสอนหญิงว่า “ท่านเลี้ยงมาว่าจะให้เป็นหอห้องหมายจะกองทุนสินกินขนม” นี้ก็หมายถึง กินขันหมาก เนื่องจากแต่งงานบุตรีนั้น ในกฏหมายลักษณะผังเมียที่มีมาตั้งแต่แผ่นดิน พระเจ้าอู่ทองมีมาตรา หนึ่งว่า “ผู้ใดไปสู่ขอลูกสาวหลานสาวท่าน บิดามารดาญาติแห่งหญิงตกปากให้ได้กิน ขันหมากท่านแล้วนี้แสดงว่าดำ” กินขันหมากเป็นสำนวนเก่าแก่ ที่สุดของไทย
ตัวอย่าง
ถึงตกทุกข์บุกไพรได้ความยาก แต่ได้กินขันหมากเป็นสองหน
ไชยเชษฐ์ พระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ 2
2. กินถ้วย
ความหมาย กินเลี้ยงในงานที่มีการเลี้ยงแขก
ความเป็นมา ในสมัยโบราณเวลามีงานใหญ่และเลี้ยงแขกที่มาในงาน เสร็จอาหารของลาว แล้วจึงตอนของแทน จะมีของหวานสี่อย่าง สำหรับกินกับน้ำเชื่อมบ้าง หรือใช้ของอย่างอื่นบ้าง แต่ก็มีสี่อย่างเสมอ ของสี่อย่างนี้ มีคำ เรียกกัน เล่นๆ ว่า ไข่กบ นกปล่อย นองลอย อ้ายตื้อ ไข่กบ คือแมงลัก นกปล่อย คือ ลอดช่อง นางลอย คือข้าวตอก อ้ายตื้อ คือ ข้าวต้มน้ำวุ้น การเลี้ยงแขกที่มีของสีอย่างนี้ คือกันเป็นงานใหญ่ ใครเป็นแขกไปรวมงานและกินเลี้ยงก็เรียกว่า กินสี่ด้วย
3. แก้เกี้ยว - พูดแก้ให้เกี่ยวข้องอยู่ในเรื่อง
ความหมาย พูดแก้ตัว หมายถึงพูดแก้ไปอย่างอื่น แต่แก้เกี้ยวหมายถึงพูดแก้ให้เกี้ยวข้องมัวพันอยู่ในเรื่องที่พูดกัน สำนวนนี้ดูท่าทางจะมาจากการเล่นเพลง ซึ่งชายหญิงร้องเกี้ยวแก้กัน
4. เข้าตามตรอกออกตามประตู
สำนวนนี้แปลไปได้สองนัยหนึ่งแปลตามตัวที่ว่า “เข้าตามตรอก” ก็ หมายความว่าเวลา จะไปหาใครที่ไม่คุ้นเคย ให้ดูลาดเลา เลียมเคียงเข้าไปก่อนเช่น บ้านเขามีประตูเล็ก หรือมีทางสำหรับ เข้าออกอีกต่างหากก็ให้เข้าทางนั้น ไม่ควรจะเข้าทางประตูใหญ่ทีเดียว เมื่อเสร็จธุระแล้วเวลาจะออกก็ออกทางประตูใหญ่ได้แปลว่า ทำอะไรให้รู้การเทศะ อีกนัยหนึ่งเข้าตามรอก” คำ “ตรอก” เป็นแต่เพียงพูดให้คล้อง ของกับออก” ส่วนความหมาย สำคัญอยู่ที่ “ประตู” คือ ให้เข้าออกทางประตูตามที่มีอยู่ ซึ่งแปลว่า ทำอะไรให้ถูกต้องตามธรรมเนียมแต่อย่างไรก็ตามความหมายของสำนวนนี้ก็ลงกันในข้อที่ว่า ให้รู้จักทำให้ถูกต้องเหมาะสม


5. ครอบ
ความหมาย สอนวิชา ความรู้
ความเป็นมา “คำว่า “ครอบ” มาจากพิธีครอบโขนละคร” ซึ่งทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ คือ ผู้ฝึกหัดเป็นตัวโขนตัวละครรำ เมื่อหัดรำจนรำเพลงช้าเพลงเร็วได้ดีแล้ว ครูอาจารย์ก็จัดทำพิธี ครอบให้ พิธีมีหลายระยะแต่ที่สำคัญก็คือ ครุซึ่งแต่งตัวเป็นฤาษีออกครอบศีรษะ ให้ศิษย์ แล้วเอาหัวโขนอื่นๆ มีหัวพระอิศวร หัวพระพิรามฯลฯ ครอบเป็นลำดับไปเสร็จพิธีแล้วศิษย์ที่ครูครอบให้นั้นก็นับว่า เป็นตัวโขนตัวละครออกโรงเล่นได้ สรุปความว่า “ครอบ” คือครอบหัวโขนที่ครูใช้ศิษย์ แสดงว่าศิษย์นั้นความรู้วิชา รำดีแล้ว ต่อมาเราเอาคำ “ครอบ” นี้ใช้พูดเป็นสำนวนหมายถึงสอนอะไรให้ทุกอย่าง “ครอบ” เป็นสำนวนใช้คู่ขับ ” ขึ้นครู” จึงหมายความเรียน ”ใครครอบให้” หมายความว่าใครสอนให้ ”ขึ้นครูแล้วหรือยัง” หมายความว่าเรียนจากครูแล้วหรือยัง
6. คู่เรียงเคียงหมอน
ความเป็นมา เป็นสำนวนที่ตามประเพณี แต่งงานของไทย ที่มีมาแต่โบราณ เมื่อรดน้ำคู่บ่าวสาวเสร็จแล้วก็มีการส่งตัวเจ้าสาวที่เรือนหอ มีฤกษ์ เรียกว่า “ฤกษ์เรียงหมอน” คือปูที่นอน จัดหมอนสำหรับเจ้าบ่าวเจ้าสาววางเรียงเคียงคู่กัน “ คู่เรียงเคียงหมอนจึงเป็นสำนวน หมายถึงความเป็นสามีภรรยากัน
ตัวอย่าง
คู่บรรทมบรรจถรณ์นิทร์ ขนิษฐ์คู่เขนยทอง
คู่พักตร์คู่พจนสนอง                                           สูขคู่เขษผสม
สรรพสิทธ์คำฉันท์ของกรมสมเด็จพระปรมานุชิตฯ
7. ทำมิ่งสิ่งขวัญ
ความหมาย ทำขวัญ คือทำพิธีของให้มิ่งขวัญในตัวอยู่มั่นคง และเจริญ
ตัวอย่าง
น้ำไหลไฟดับ     มาพบสบพับ        โฉมยงทรงใน
ทำมิ่ง สิ่งขวัญ                      แพทย์พราหมณ์ครมครัน
ตั้งเตียงเรียงไร                     ตามไต้ให้ไฟ        จึดเทียนเวียนไป
ธารทรงสรงสนาน
กาพย์ขับไม้ พระรถ


8. นอกรีด
ความหมาย ประพฤติผิดไปจากแบบแผนขนมธรรมเนียมประเพณี
ตัวอย่าง
ขอโทษโปรดเถิดพระมุนี                อะไรนี่นอกรีดมากีดขวาง
ผัวท่านจะคลึงเคล้าเข้าหยกนาง                       ห้องกลางเปล่าอยู่นิมนต์ไป
คาวีพระราชานิพนธ์รัชกาลที่ 2
9. บอกแขก
ความหมาย บอกคนทั้งหลายให้รู้ เพื่อให้มาช่วยเหลือทำการงานต่างๆ
ตัวอย่าง
แล้วบิดามารดาเจ้าบ่าวเจ้าสาว ก็จัดแจงแต่งสำขันคาวหวาน ยกไปให้ตราพวกญาติพี่น้อง และพระหลวงขุนหมื่นแลกรมการผู้มีบรรดาศักดิ์ การบอกแขกช่วยทำการวิวาห์มงคลตามสมควรทั้งสองฝ่าย
ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่2
10.ปลูกหอ ลงโรง
ความเป็นมา แต่งงานปลูกหอ” หมายถึง “ปลูกเรือนหอ” ซึ่งตามประเพณีไทยต้องมีเรือนหอ สำหรับคู่บ่าวสาวที่จะกินอยู่ด้วยวันเป็นหลักฐาน ”ลงโรงหมายถึง ทำงานเป็นพิธีใหญ่โต มีปลูกโรงรับงานใหญ่โตออกหน้าออกตา เพลงฉ่อย สมัยเก่ามีร้องกัน “ ที่เบารักกันหนาที่เขาพากันหนี ที่เขามั่งเขามีถมไปที่ปลูกหอลงโรง ฉิบหายตายโรงนั่นเป็นไร
ตัวอย่าง
บ้านเมืองในสมัยที่ยังไม่เจริญเปรียบ เหมือนบ้านเรา เมื่อแรกปลูกหอลงโรง บ้านเมืองในสมัยที่เจริญขึ้นแล้ว เปรียบเหมือนบ้านเรา เมื่อเกิดลูกครึ่งโหลไปแล้ว

เรื่อง เศรษฐวิทยาของครูเทพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น